บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)

MINT ร่วมมือกับ S&P เพื่อขยายร้านอาหารภัทราและสุดาในประเทศอังกฤษ

บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (‘MINT’) และบริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) (‘S&P’) ตกลงทำสัญญาเบื้องต้นในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนด้วยสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 50/50 ในประเทศอังกฤษ เพื่อรับสิทธิ์แฟรนไชส์และพัฒนาธุรกิจร้านอาหารภายใต้ แบรนด์ภัทราและสุดาในประเทศอังกฤษ ภายใต้ชื่อ บริษัท ภัทรา ไฟน์ ไทย คูซีน (‘PFTC’) โดยจะใช้เงินลงทุนเบื้องต้นจำนวน 3 ล้านปอนด์ สำหรับเปิดร้านอาหารอย่างน้อยสองสาขาในกรุงลอนดอนภายในสิ้นปี 2558

ร้านอาหารที่บริษัท PTFC พัฒนาและเป็นเจ้าของ จะเปิดให้บริการไปพร้อมกับร้านอาหารที่มีอยู่เดิมภายใต้แบรนด์ภัทราสี่สาขาและแบรนด์สุดาอีกหนึ่งสาขา ซึ่งปัจจุบันบริษัทเอส แอนด์ พี เรสทัวรองท์ (‘SPRL’) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท S&P เป็นเจ้าของและบริหารงานอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ MINT และ S&P ได้ตกลงทำสัญญาเบื้องต้น ว่าเมื่อทั้งสองฝ่ายได้ทำตามเงื่อนไขและข้อบังคับก่อนการเข้าลงทุนเสร็จสิ้น บริษัท PFTC จะลงทุนเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 7 ล้านปอนด์เพื่อเข้าซื้อสินทรัพย์ซึ่งรวมถึงส่วนที่สนับสนุนระบบปฏิบัติการทั้งหมดของร้านอาหารทั้ง 5 แห่งจากบริษัท SPRL ต่อไป

MINT และ S&P อยู่ระหว่างการกำหนดรายละเอียดในสัญญาหลัก (Definitive Agreement) ทั้งนี้ S&P จะจ้างหน่วยงานอิสระในการทบทวนและให้ความเห็นเกี่ยวกับการเข้าร่วมลงทุนในครั้งนี้ ซึ่งจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของบริษัท S&P ต่อไป

MINT มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ S&P อีกครั้ง หลังจากที่ทั้งสองบริษัทได้ประกาศความร่วมมือเพื่อเปิดสถาบันสอนทำอาหารภายใต้ชื่อ “บริษัท เอ็มเอสซี ไทย คูซีน จำกัด” ในปีที่ผ่านมา สถาบันแห่งนี้ประกอบด้วยโรงเรียนสอนทำอาหาร MSC Thai Culinary และส่วนงานรับให้คำปรึกษา โดย MSC Thai Cuisine Academy นับเป็นสถาบันสอนทำอาหารไทยชั้นนำสำหรับเชฟมืออาชีพและบุคคลทั่วไป ทั้งนี้ บริษัท เอ็มเอสซี ไทย คูซีน จำกัด จะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของร้านอาหารภัทราและร้านอาหารสุดาในประเทศอังกฤษ โดยเป็นศูนย์พัฒนาบุคลากรและศูนย์พัฒนาความเป็นเลิศในด้านต่างๆ

ประเทศอังกฤษเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการขยายธุรกิจร้านอาหารภายใต้แบรนด์เช่นภัทราและสุดา ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงอย่างมากในกรุงลอนดอน ถึงแม้จะมีคู่แข่งร้านอาหารไทยในตลาด แต่มีอยู่เพียงไม่กี่ร้านที่สามารถขยายธุรกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น MINT จึงมีแผนที่จะเป็นผู้นำในการพัฒนาธุรกิจร้านอาหารไทยในระดับโลก ขณะเดียวกัน การลงทุนในประเทศอังกฤษจะเอื้อประโยชน์ให้ MINT สามารถขยายธุรกิจร้านอาหารได้นอกเหนือจากตลาดหลักที่ MINT ดำเนินธุรกิจอยู่ ในเอเชีย ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง

นายวิลเลียม อี ไฮเน็ค ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MINT กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่จะเสริมสร้างพันธมิตรทางธุรกิจกับ S&P ให้แข็งแกร่งขึ้น ด้วยการร่วมลงทุนในบริษัท ภัทรา ไฟน์ ไทย คูซีน เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจในประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ ร้านอาหารไทยนับเป็นส่วนสำคัญของกลุ่มร้านอาหารของ MINT และเราพร้อมที่จะร่วมกับ S&P เพื่อไปสู่การเป็นผู้นำร้านอาหารไทยในระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้วยการที่อาหารไทยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในระดับสากล”

บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจระดับสากล โดยประกอบ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่น MINT เป็นผู้นำในธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย โดยมีร้านอาหารกว่า 1,700 สาขา ในกว่า 20 ประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า เดอะ พิซซ่า คอมปะนี สเวนเซ่นส์ ซิซซ์เลอร์ แดรี่ ควีน เบอร์เกอร์ คิง ไทยเอ็กซ์เพรส เดอะ คอฟฟี่ คลับ ริบส์ แอนด์ รัมส์ เบร็ดทอล์ค (ประเทศไทย) และริเวอร์ไซด์ อีกทั้งยังเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจโรงแรมทั้งในรูปแบบเป็นเจ้าของเอง บริหารจัดการ และร่วมลงทุน โดยมีโรงแรมทั้งสิ้น 127 โรงแรม ภายใต้เครื่องหมายการค้า อนันตรา อวานี โอ๊คส์ เปอร์ อควัม ทิโวลี เอเลวาน่า แมริออท โฟร์ ซีซั่นส์ เซ็นต์ รีจิส เรดิสัน บลู และโรงแรมในกลุ่มไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ใน 22 ประเทศในเอเชียแปซิฟิค ตะวันออกกลาง แอฟริกา คาบสมุทรอินเดีย ยุโรป และอเมริกาใต้ นอกจากนี้ MINT ยังเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นจากต่างประเทศ ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องสำอาง และธุรกิจรับจ้างผลิตสินค้า โดยมีโรงงานเป็นของตัวเอง เครื่องหมายการค้าที่ MINT เป็นผู้จัดจำหน่ายได้แก่ แก๊ป บานาน่า รีพับบลิค เอสปรี บอสสินี่ ชาร์ล แอนด์ คีธ เพโดร เรดเอิร์ธ ทูมี่ สวิลลิ่ง เจ.เอ. เฮ็งเคิลส์ อีทีแอล เลิร์นนิ่ง และ มายเซลล์ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.minorinternational.com

Press Contacts: Chaiyapat Paitoon / Jutatip Adulbhan at Tel: (662) 365-7500