ปี 2567 เป็นอีกปีที่น่าทึ่งสำหรับไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล

จากการทำลายสถิติผลการดำเนินงานของเราอีกครั้ง ธุรกิจของเราเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการขยายไปยังตลาดใหม่รวมถึงการเติบโตของจำนวนโรงแรมและกำลังคนอย่างมีนัยสำคัญ สิ่งที่ทำให้ผมภาคภูมิใจเป็นพิเศษคือการที่เราสามารถสร้างสมดุลของการการเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับความก้าวหน้าในเส้นทางแห่งความยั่งยืน

หนึ่งในความสำเร็จที่สำคัญของเราในปี 2567 คือการได้รับการรับรองเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์จาก SBTi (Science Based Targets initiative) ความสำเร็จนี้ไม่เพียงแต่จะสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแต่ยังแสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการดำเนินงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเราอีกด้วย ผมภูมิใจที่จะรายงานว่าเราสามารถลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวลงได้ถึงร้อยละ 81 ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ร้อยละ 75 เมื่อเทียบกับปีฐาน 2561โดยที่ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมาเราลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวได้รวมแล้วกว่า 3,200 ตัน จากการลดการใช้ในกลุ่มธุรกิจไมเนอร์ ฟู้ด และไมเนอร์ โฮเทลส์ ในประเทศไทย และการยุติการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวโดยสิ้นเชิงของไมเนอร์ ฟู้ด ในมัลดีฟส์และเซเซลส์ นอกจากนี้ ไมเนอร์ โฮเทลส์ยังสามารถลดอัตราการส่งขยะอินทรีย์สู่การฝังกลบลงได้ร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับปีฐาน 2564 ซึ่งเป็นไปตามแผนของเราเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดที่ร้อยละ 50 ภายในปี 2573

แม้จะมีการขยายธุรกิจในกลุ่มโรงแรมในปี 2567 เรายังสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ Scope 1 และ Scope 2 ของไมเนอร์ โฮเทลส์ ลงได้ร้อยละ 3.5 โดยโรงแรมของเรามีการปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน การลงทุนในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน การดำเนินงานเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความพร้อมของเราในการปรับตัวกับสภาวะโลกร้อนเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจของเราอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อห้องที่แขกเข้าพักเนื่องจากการเพิ่มจำนวนโรงแรมประเภทรีสอร์ทซึ่งมีห้องพักที่ขนาดใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับห้องพักขนาดเล็กของโรงแรมในเมือง รวมถึงการที่เราเชิญชวนให้แขกผู้เข้าพักใช้เวลากับกิจกรรมในโรงแรมมากขึ้นเพื่อเพิ่มรายได้ ผลการดำเนินงานของเราแสดงให้เห็นว่าเป้าหมายของเรามีความท้าทาย แต่เรายังมุ่งมั่นที่จะพัฒนากระบวนการการดำเนินงานของเราเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว

ไมเนอร์ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อธรรมชาติ ตลอดปี 2567 ทีมงานนักธรรมชาติวิทยา นักชีววิทยาทางทะเล และพนักงานของเราได้ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร รวมถึงชุมชนท้องถิ่น ในการดำเนินโครงการเพื่ออนุรักษ์สายพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่อยู่ในบัญชีแดงขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) ได้ 98 สายพันธุ์ การปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพเป็นส่วนสำคัญของพันธกิจด้านความยั่งยืนของเรา การดำเนินงานเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อของเราว่าความสำเร็จทางธุรกิจและการดูแลสิ่งแวดล้อมสามารถทำไปควบคู่กันได้

สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันกับการเติบโตของไมเนอร์คือการพัฒนาศักยภาพบุคคล เรามีความภูมิใจในการมอบโอกาสให้แก่เยาวชนโดยสร้างเส้นทางสู่อาชีพและส่งเสริมให้พวกเขาก้าวไปสู่ความสำเร็จในอนาคต ในปี 2567 ร้อยละ 57 ของผู้สำเร็จการศึกษาจากโครงการ Minor Corporate University (MCU) ได้เข้าร่วมงานกับไมเนอร์ นอกจากนี้ เรายังได้รับการรับรองจาก Great Place to Work เป็นปีที่สองติดต่อกัน ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของหน่วยงานทรัพยากรบุคคลของเราทั่วโลกในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมการเติบโตและการมีส่วนร่วมของพนักงาน สิ่งเหล่านี้ล้วนมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจของเรา ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ค่านิยมของไมเนอร์ได้สร้างวัฒนธรรมที่ส่งเสริมให้ทุกคนสามารถพัฒนาศักยภาพได้ถึงขีดสุด

นอกเหนือจากการดำเนินธุรกิจแล้ว เรายังคงมุ่งมั่นในการตอบแทนและสนับสนุนชุมชนผ่านโครงการต่างๆ ภายใต้แนวคิด "Together with Love" ในปี 2567 เราสนับสนุนคนได้กว่า 450,000 คน และนับตั้งแต่ปี 2565 เราได้สนับสนุนกว่า 1,160,000 คนทั่วโลกผ่านโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาต่างๆของเรา เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการสนับสนุนสามล้านคนภายในปี 2573 นอกจากนี้ ผมรู้สึกซาบซึ้งใจที่เห็นพนักงานของเรารวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือเพื่อนพนักงานและสังคมในช่วงเวลาที่เผชิญความยากลำบากหรือการประสบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งความมีน้ำใจและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนี้เป็นส่วนสำคัญของตัวตนของไมเนอร์

ความไว้วางใจเป็นรากฐานที่สำคัญของธุรกิจของเรา เรามุ่งมั่นที่จะสร้างและรักษาความไว้วางใจนี้ผ่านการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ในปี 2567 เราได้ปรับปรุงกระบวนการเพื่อตรวจสอบการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน รวมถึงการจัดทำกรอบการบริหารจัดการซัพพลายเชนอย่างยั่งยืนเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมและพัฒนาศักยภาพของคู่ค้า การดำเนินงานทั้งหมดนี้จะทำให้เราสามารถรับมือกับกฎหมายด้านความยั่งยืนที่เกิดขึ้นใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งแสดงถึงความคาดหวังด้านความยั่งยืนของเราต่อพันธมิตร

ความทุ่มเทของเราในด้านความยั่งยืนและการกำกับดูแลกิจการที่ดีได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ในปี 2567 บริษัทได้รับคะแนนด้านการกำกับดูแลกิจการในระดับ "ดีเลิศ" จากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทยของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทยเป็นปีที่ 12 ติดต่อกัน และได้รับการจัดอันดับ MSCI ESG Rating ในระดับ AA รวมถึงได้รับการบรรจุอยู่ในดัชนี FTSE4Good Index Series และใน S&P Global's Sustainability Yearbook 2025 ของกลุ่มอุตสาหกรรมโรงแรม รีสอร์ท และเรือสำราญ

ความสำเร็จเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากปราศจากความทุ่มเท ความคิดริเริ่ม และความพยายามที่ตั้งมั่นจากพนักงานของเรา ผมขอแสดงความขอบคุณพนักงานทุกคนของไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล สำหรับความมุ่งมั่นที่ทุกคนมีต่อความเป็นเลิศและความยั่งยืน นอกจากนี้ผมขอขอบคุณผู้มีส่วนได้เสียของไมเนอร์ทุกท่านสำหรับความไว้วางใจ การสนับสนุน และความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของเรา

ผมรู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสและความท้าทายที่กำลังรอเราอยู่ในปี 2568 เรายังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายของเรา ไปพร้อมกับการรับมือกับความท้าทาย และเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ เราจะแสดงให้เห็นว่าความมุ่งมั่นสู่การเติบโตทางธุรกิจและความยั่งยืนสามารถไปด้วยกันได้ด้วยความร่วมมือของพวกเราทุกคน

วิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค
ประธานกรรมการ
มีนาคม 2566